มาตรฐานการขนส่ง Q Mark คืออะไร?

มาตรฐานการขนส่ง Q Mark คืออะไร?

1. บทนำ

ในยุคปัจจุบันที่การขนส่งสินค้ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจและสังคม การพัฒนามาตรฐานคุณภาพในอุตสาหกรรมขนส่งจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ภาคการขนส่งสินค้าในประเทศไทยยังคงเผชิญกับปัญหาและความท้าทายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ ปัญหาการจราจรติดขัด ปัญหามลพิษทางอากาศ และปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการขนส่งสินค้า

เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ กรมการขนส่งทางบกจึงได้จัดทำ “มาตรฐาน Q Mark” หรือ มาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือในการยกระดับคุณภาพการบริการขนส่งสินค้าทางถนนให้ได้มาตรฐานสากล

มาตรฐาน Q Mark ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือในการควบคุมคุณภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการขนส่งในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยการนำระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมาใช้ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของบริการ

บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับมาตรฐาน Q Mark อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย ความสำคัญ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการขอรับรอง เกณฑ์การประเมิน ประโยชน์ที่ได้รับ ไปจนถึงกรณีศึกษาของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจากการนำมาตรฐาน Q Mark ไปใช้ เพื่อให้คุณสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปปรับใช้ในการพัฒนาธุรกิจขนส่งของคุณให้เติบโตอย่างยั่งยืน

2. ความหมายและความสำคัญของมาตรฐาน Q Mark

Q Mark หรือ มาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก คือ มาตรฐานที่กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้กำหนดขึ้น เพื่อเป็นแนวทางในการยกระดับคุณภาพการบริการขนส่งสินค้าทางถนนในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผู้ประกอบการขนส่งให้มีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และสามารถให้บริการขนส่งสินค้าได้อย่างปลอดภัย ตรงเวลา และได้มาตรฐานสากล

มาตรฐาน Q Mark มีที่มาจากความต้องการของภาครัฐและภาคเอกชนในการแก้ไขปัญหาและยกระดับคุณภาพการขนส่งสินค้าทางถนนในประเทศไทย ซึ่งมีปัญหาต่าง ๆ เช่น การขาดมาตรฐานการบริการ การขาดความปลอดภัยในการขนส่ง และการขาดความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการขนส่ง

วัตถุประสงค์หลักของมาตรฐาน Q Mark คือ:

  1. ยกระดับคุณภาพการบริการขนส่ง: ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนส่งมีระบบบริหารจัดการที่ดี และสามารถให้บริการขนส่งสินค้าได้ตามมาตรฐานที่กำหนด เช่น การมีระบบติดตามสถานะสินค้า การมีระบบจัดการข้อร้องเรียน การมีระบบประกันภัยสินค้า เป็นต้น
  2. สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า: เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าจะได้รับบริการขนส่งที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ประกอบการและลูกค้า
  3. ลดความเสี่ยงในการขนส่ง: ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและความเสียหายต่อสินค้าระหว่างการขนส่ง โดยการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยในการขนส่ง เช่น การตรวจสภาพรถ การฝึกอบรมพนักงานขับรถ การจัดการความเสี่ยง
  4. ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของอุตสาหกรรมขนส่ง: สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับอุตสาหกรรมขนส่ง และส่งเสริมการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานการขนส่งของประเทศไทยให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล

มาตรฐาน Q Mark มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการขนส่ง เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาธุรกิจได้อย่างยั่งยืน โดยการนำระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมาใช้ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของบริการ นอกจากนี้ การได้รับรองมาตรฐาน Q Mark ยังเป็นการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และเปิดโอกาสในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศอีกด้วย

3. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการขอรับรองมาตรฐาน Q Mark

ผู้ประกอบการขนส่งที่ต้องการขอรับรองมาตรฐาน Q Mark จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด โดยมีรายละเอียดดังนี้

คุณสมบัติของผู้ประกอบการที่สามารถขอรับรองได้:

  • ประเภทธุรกิจ: ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทั่วไป หรือ ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเฉพาะประเภท
  • ขนาดธุรกิจ: ไม่จำกัดขนาดธุรกิจ ทั้งผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหญ่สามารถขอรับรองได้
  • ใบอนุญาตประกอบการขนส่ง: ผู้ประกอบการต้องมีใบอนุญาตประกอบการขนส่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย
  • จำนวนรถ: ต้องมีรถบรรทุกที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายอย่างน้อย 1 คัน

เอกสารและหลักฐานที่ต้องเตรียม:

  • ใบอนุญาตประกอบการขนส่ง: สำเนาใบอนุญาตประกอบการขนส่งที่ยังไม่หมดอายุ
  • หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท/ห้างหุ้นส่วน: สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท/ห้างหุ้นส่วนที่ยังไม่หมดอายุ
  • สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวประชาชนของผู้บริหาร: สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้จัดการ หรือผู้มีอำนาจลงนาม
  • เอกสารอื่น ๆ: เอกสารที่เกี่ยวข้องกับระบบบริหารจัดการขนส่ง เช่น คู่มือคุณภาพ นโยบาย แผนปฏิบัติการ ระเบียนต่าง ๆ

ขั้นตอนการขอรับรอง:

  1. ยื่นคำขอ: ผู้ประกอบการยื่นคำขอรับรองมาตรฐาน Q Mark ต่อกรมการขนส่งทางบก
  2. ตรวจประเมิน: กรมการขนส่งทางบกจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจประเมินระบบบริหารจัดการขนส่งของผู้ประกอบการตามเกณฑ์ที่กำหนด
  3. แก้ไขปรับปรุง: หากพบข้อบกพร่อง ผู้ประกอบการต้องดำเนินการแก้ไขปรับปรุงตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
  4. รับรอง: เมื่อผ่านการตรวจประเมินและแก้ไขข้อบกพร่องเรียบร้อยแล้ว ผู้ประกอบการจะได้รับใบรับรองมาตรฐาน Q Mark

ระยะเวลาในการขอรับรอง:

ระยะเวลาในการขอรับรองมาตรฐาน Q Mark ขึ้นอยู่กับความพร้อมของเอกสารและความสมบูรณ์ของระบบบริหารจัดการขนส่งของผู้ประกอบการ โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน

ค่าใช้จ่ายในการขอรับรอง:

กรมการขนส่งทางบกจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการขอรับรองมาตรฐาน Q Mark ตามขนาดของธุรกิจและจำนวนรถบรรทุก

การต่ออายุใบรับรอง:

ใบรับรองมาตรฐาน Q Mark มีอายุ 3 ปี ผู้ประกอบการต้องยื่นคำขอต่ออายุใบรับรองก่อนวันหมดอายุ โดยต้องผ่านการตรวจประเมินซ้ำตามเกณฑ์ที่กำหนด

4. เกณฑ์การประเมินมาตรฐาน Q Mark

การตรวจประเมินมาตรฐาน Q Mark จะครอบคลุม 5 ด้านหลัก ดังนี้

1. ด้านการบริหารจัดการองค์กร

  • นโยบายและแผน: ผู้ประกอบการต้องมีนโยบายและแผนการบริหารจัดการขนส่งที่ชัดเจน ครอบคลุมด้านต่าง ๆ เช่น นโยบายคุณภาพ นโยบายความปลอดภัย นโยบายสิ่งแวดล้อม และแผนการดำเนินงาน
  • ระบบบริหารงานบุคคล: ผู้ประกอบการต้องมีระบบบริหารงานบุคคลที่มีประสิทธิภาพ เช่น การสรรหาและคัดเลือกพนักงาน การฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน การประเมินผลการปฏิบัติงาน
  • การเงิน: ผู้ประกอบการต้องมีสถานะทางการเงินที่มั่นคง และมีระบบการจัดการทางการเงินที่ดี เช่น การจัดทำบัญชี การจัดทำงบการเงิน การบริหารความเสี่ยงทางการเงิน

2. ด้านการปฏิบัติการขนส่ง

  • การวางแผน: ผู้ประกอบการต้องมีการวางแผนการขนส่งที่ดี เช่น การวางแผนเส้นทาง การวางแผนการจัดส่ง การวางแผนการใช้ทรัพยากร
  • การควบคุม: ผู้ประกอบการต้องมีระบบการควบคุมการขนส่งที่ดี เช่น การติดตามสถานะสินค้า การตรวจสอบคุณภาพสินค้า การจัดการข้อร้องเรียน
  • การตรวจสอบ: ผู้ประกอบการต้องมีการตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติงานขนส่งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง

3. ด้านการบริการลูกค้า

  • ช่องทางการติดต่อ: ผู้ประกอบการต้องมีช่องทางการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าที่หลากหลายและสะดวก เช่น โทรศัพท์ อีเมล เว็บไซต์
  • การแก้ไขปัญหา: ผู้ประกอบการต้องมีระบบการรับข้อร้องเรียนและแก้ไขปัญหาของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
  • การรับฟังความคิดเห็น: ผู้ประกอบการต้องมีการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ และนำข้อเสนอแนะของลูกค้ามาปรับปรุงการบริการ

4. ด้านความปลอดภัย

  • การบำรุงรักษารถ: ผู้ประกอบการต้องมีระบบการบำรุงรักษารถบรรทุกที่ดี เพื่อให้รถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและปลอดภัย
  • การฝึกอบรมพนักงาน: ผู้ประกอบการต้องมีการฝึกอบรมพนักงานขับรถและพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย
  • การจัดการอุบัติเหตุ: ผู้ประกอบการต้องมีระบบการจัดการอุบัติเหตุที่ดี เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

5. ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม

  • การลดมลพิษ: ผู้ประกอบการต้องมีมาตรการในการลดมลพิษจากการขนส่ง เช่น การใช้รถบรรทุกที่ปล่อยมลพิษต่ำ การใช้พลังงานทดแทน
  • การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ: ผู้ประกอบการต้องมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การวางแผนเส้นทางขนส่ง การใช้เทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงาน

6. การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

  • การวัดผล: ผู้ประกอบการต้องมีการวัดผลการปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ
  • การวิเคราะห์: ผู้ประกอบการต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการวัดผล เพื่อหาสาเหตุของปัญหาและโอกาสในการปรับปรุง
  • การปรับปรุง: ผู้ประกอบการต้องมีการปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม

5. ประโยชน์ของการได้รับรองมาตรฐาน Q Mark

การได้รับรองมาตรฐาน Q Mark ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพการบริการขนส่งเท่านั้น แต่ยังนำมาซึ่งประโยชน์มากมายต่อผู้ประกอบการขนส่ง ลูกค้า และสังคมโดยรวม ดังนี้

ประโยชน์ต่อผู้ประกอบการขนส่ง:

  • เพิ่มความน่าเชื่อถือ: การได้รับรองมาตรฐาน Q Mark เป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและคู่ค้าว่าผู้ประกอบการมีระบบบริหารจัดการขนส่งที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน
  • ลดต้นทุน: การนำระบบบริหารจัดการขนส่งตามมาตรฐาน Q Mark มาใช้ ช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงาน เช่น ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ ลดความเสียหายของสินค้า ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง และลดค่าใช้จ่ายในการจัดการข้อร้องเรียน
  • เพิ่มรายได้: การได้รับรองมาตรฐาน Q Mark ช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับงานจากลูกค้าที่มีความต้องการใช้บริการขนส่งที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน นอกจากนี้ ยังสามารถเรียกเก็บค่าบริการในอัตราที่สูงขึ้นได้ เนื่องจากเป็นผู้ให้บริการที่มีคุณภาพ
  • เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน: การได้รับรองมาตรฐาน Q Mark ช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของผู้ประกอบการในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
  • สร้างภาพลักษณ์ที่ดี: การได้รับรองมาตรฐาน Q Mark ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร ทำให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในวงกว้าง
  • พัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน: การนำระบบบริหารจัดการขนส่งตามมาตรฐาน Q Mark มาใช้ ช่วยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี

ประโยชน์ต่อลูกค้า:

  • ได้รับบริการที่มีคุณภาพ: ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการขนส่งที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ตรงเวลา และได้มาตรฐาน
  • ลดความเสี่ยงในการขนส่ง: สินค้าของลูกค้ามีความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการมีระบบการจัดการความเสี่ยงที่ดี
  • ได้รับการดูแลที่ดี: ลูกค้าได้รับการดูแลและเอาใจใส่จากผู้ประกอบการอย่างดีเยี่ยม มีช่องทางการติดต่อสื่อสารที่สะดวก และมีระบบการแก้ไขปัญหาที่รวดเร็ว

ประโยชน์ต่อสังคม:

  • ลดอุบัติเหตุ: การนำมาตรฐาน Q Mark มาใช้ ช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ทำให้การขนส่งสินค้ามีความปลอดภัยมากขึ้น
  • ลดมลภาวะ: การนำมาตรฐาน Q Mark มาใช้ ช่วยลดมลภาวะทางอากาศและเสียงจากการขนส่ง
  • ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน: การนำมาตรฐาน Q Mark มาใช้ ช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน

6. กรณีศึกษา: ตัวอย่างผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจากการได้รับรอง Q Mark

เพื่อให้เห็นภาพความสำเร็จจากการนำมาตรฐาน Q Mark ไปใช้จริง เราจะมาดูตัวอย่างของผู้ประกอบการขนส่งสองรายที่ได้รับประโยชน์อย่างมากจากการได้รับรองมาตรฐานนี้

บริษัทขนส่ง ABC:

บริษัทขนส่ง ABC เป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทั่วไป มีรถบรรทุกในสังกัดจำนวนมาก ก่อนที่จะได้รับรองมาตรฐาน Q Mark บริษัทฯ ประสบปัญหาหลายด้าน เช่น ต้นทุนการดำเนินงานสูง อุบัติเหตุบ่อยครั้ง และความไม่พึงพอใจของลูกค้า

หลังจากได้รับรองมาตรฐาน Q Mark บริษัทฯ ได้นำระบบบริหารจัดการขนส่งมาปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้:

  • ลดต้นทุนการดำเนินงาน: อุบัติเหตุลดลง ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงลดลง และประสิทธิภาพในการใช้พลังงานดีขึ้น
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง: การวางแผนเส้นทางและการจัดตารางการขนส่งดีขึ้น ทำให้สามารถส่งสินค้าได้ตรงเวลาและลดความเสียหายของสินค้า
  • ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า: ลูกค้ามีความพึงพอใจในบริการมากขึ้น เนื่องจากได้รับสินค้าตรงเวลาและอยู่ในสภาพสมบูรณ์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีช่องทางการติดต่อสื่อสารที่สะดวกและมีระบบการแก้ไขปัญหาที่รวดเร็ว
  • ขยายฐานลูกค้า: การได้รับรองมาตรฐาน Q Mark ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทฯ ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการใช้บริการขนส่งที่มีคุณภาพ

บริษัทขนส่ง XYZ:

บริษัทขนส่ง XYZ เป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าเฉพาะประเภท เช่น สินค้าอันตราย ก่อนที่จะได้รับรองมาตรฐาน Q Mark บริษัทฯ มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยในการขนส่ง

หลังจากได้รับรองมาตรฐาน Q Mark บริษัทฯ ได้นำระบบบริหารจัดการความปลอดภัยมาใช้ ทำให้:

  • ลดอุบัติเหตุ: อุบัติเหตุในการขนส่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีการตรวจสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ มีการฝึกอบรมพนักงานขับรถให้มีความรู้ความสามารถในการขนส่งสินค้าอันตราย และมีระบบการจัดการอุบัติเหตุที่มีประสิทธิภาพ
  • เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า: ลูกค้ามีความมั่นใจในความปลอดภัยของสินค้ามากขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีระบบการจัดการความปลอดภัยที่ดี
  • สร้างภาพลักษณ์ที่ดี: การได้รับรองมาตรฐาน Q Mark ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทฯ ในฐานะผู้ให้บริการขนส่งสินค้าอันตรายที่มีความปลอดภัยสูง
  • ขยายตลาด: การได้รับรองมาตรฐาน Q Mark ช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้ เนื่องจากเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

7. สรุป

มาตรฐาน Q Mark หรือ มาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก เป็นเครื่องมือสำคัญที่กรมการขนส่งทางบกพัฒนาขึ้นเพื่อยกระดับคุณภาพการบริการขนส่งสินค้าทางถนนในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการมีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมตั้งแต่การบริหารองค์กร การปฏิบัติการขนส่ง การบริการลูกค้า ความปลอดภัย ไปจนถึงการจัดการสิ่งแวดล้อม

การได้รับรองมาตรฐาน Q Mark ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ แต่ยังนำมาซึ่งประโยชน์มากมายแก่ผู้ประกอบการขนส่ง ทั้งในด้านการลดต้นทุน เพิ่มรายได้ สร้างความน่าเชื่อถือ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างภาพลักษณ์ที่ดี และพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ลูกค้ายังได้รับประโยชน์จากการได้รับบริการที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ตรงเวลา และได้รับการดูแลที่ดี ขณะเดียวกัน สังคมโดยรวมก็ได้รับประโยชน์จากการลดอุบัติเหตุ ลดมลภาวะ และส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ดังนั้น มาตรฐาน Q Mark จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยยกระดับคุณภาพการขนส่งสินค้าทางถนนในประเทศไทยให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล และเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการขนส่งในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ช่องทางติดต่อ สอบถาม และขอใบเสนอราคา

เซลล์ตูน ขายรถอีซูซุราคาถูก
เซลล์ตูน อีซูซุ
เซลล์ตูน ขายรถบรรทุกอีซูซุ
เซลล์ตูน ขายรถอีซูซุป้ายแดง
เซลล์ตูน ขายรถอีซูซุพร้อมตารางผ่อน