TSM คืออะไร? เจาะลึกทุกขั้นตอนการขึ้นทะเบียนผู้จัดการความปลอดภัยการขนส่งในไทย
บทนำ:
ในยุคที่การขนส่งและโลจิสติกส์มีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ความปลอดภัยบนท้องถนนกลายเป็นประเด็นที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ กรมการขนส่งทางบกได้ริเริ่มโครงการ TSM (Transport Safety Manager) หรือ ผู้จัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการขนส่งทางถนนของประเทศไทย บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ TSM อย่างละเอียด ตั้งแต่ความสำคัญ คุณสมบัติ ขั้นตอนการขึ้นทะเบียน ไปจนถึงบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของ TSM ในการพัฒนาอุตสาหกรรมขนส่งไทยให้ก้าวไกลและปลอดภัยยิ่งขึ้น
บทความนี้ใช้เวลาอ่านประมาณ 15 นาที
สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้จากบทความนี้:
- ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและความสำคัญของ TSM ในอุตสาหกรรมขนส่งไทย
- ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเป็น TSM สำหรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ
- แนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของ TSM เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการขนส่ง
TSM คืออะไร และทำไมจึงสำคัญ?
TSM หรือ Transport Safety Manager คือ ผู้จัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง เป็นบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่งทางถนน โดยมีหน้าที่หลักในการวางแผน ควบคุม และกำกับดูแลการดำเนินงานด้านความปลอดภัยในองค์กรขนส่ง
ความสำคัญของ TSM:
- ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย: TSM ช่วยสร้างระบบและมาตรฐานการทำงานที่เน้นความปลอดภัยในองค์กรขนส่ง
- ลดอุบัติเหตุและความสูญเสีย: การมี TSM ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งส่งผลให้ลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
- เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง: TSM ช่วยวางแผนและจัดการการขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร
- สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย: TSM มีส่วนสำคัญในการปลูกฝังจิตสำนึกด้านความปลอดภัยให้กับบุคลากรในองค์กร
ใครบ้างที่สามารถขึ้นทะเบียนเป็น TSM ได้?
กรมการขนส่งทางบกได้กำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขสำหรับผู้ที่สามารถขึ้นทะเบียนเป็น TSM ได้ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้
-
TSM สำหรับจป. วิชาชีพ คุณสมบัติ:
- เป็นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับวิชาชีพ ตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
- ผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรการฝึกอบรมบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง 6 ชั่วโมง
หลักฐานการสมัคร:
- บัตรประจำตัวประชาชน
- รูปถ่าย 1.5 นิ้ว 1 รูป (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)
- หลักฐานการเป็น จป. ระดับวิชาชีพ อย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้ • ใบปริญญาตรี สาขาอาชีวอนามัยหรือเทียบเท่า • ใบปริญญาตรี พร้อมหลักฐานการทำงานเป็น จป. ระดับเทคนิคขั้นสูงและหลักฐานการผ่านการอบรมและทดสอบตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยในการทำงาน • หลักฐานการเป็นหรือเคยเป็น จป.ระดับวิชาชีพ และผ่านการอบรมเพิ่มและทดสอบตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยในการทำงาน
- หลักฐานการผ่านการฝึกอบรม 6 ชั่วโมง
-
TSM สำหรับบุคคลทั่วไป คุณสมบัติ:
- มีสัญชาติไทย
- อายุไม่ต่ำกว่า 22 ปี
- ผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรการฝึกอบรมบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง จำนวน 18 ชั่วโมง
หลักฐานการสมัคร:
- บัตรประจำตัวประชาชน
- รูปถ่าย 1.5 นิ้ว 1 รูป (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)
- หลักฐานการผ่านการฝึกอบรม
-
TSM สำหรับผู้ประกอบการขนส่งที่มีประสบการณ์ไม่น้อยกว่า 5 ปี คุณสมบัติ:
- มีสัญชาติไทย
- อายุไม่ต่ำกว่า 22 ปี
- เป็นผู้มีประสบการณ์การทำงานเกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านการขนส่งทางถนนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
หลักฐานการสมัคร:
- บัตรประจำตัวประชาชน
- รูปถ่าย 1.5 นิ้ว 1 รูป (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)
- หนังสือรับรองการทำงานที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านการขนส่งทางถนน
- หนังสือรับรองบริษัท หรือใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
- หลักฐานการผ่านการฝึกอบรม 6 ชั่วโมง
ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเป็น TSM
- เข้ารับการฝึกอบรม: ผู้สมัครต้องเข้ารับการฝึกอบรมตามหลักสูตรที่กำหนด ซึ่งจัดโดยหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก
- ศึกษาข้อมูลและสมัครสอบ:
- เข้าเว็บไซต์ www.tsmthai.com
- เลือกประเภทการสมัคร (จป. วิชาชีพ / บุคคลทั่วไป / ผู้มีประสบการณ์)
- กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
- ยื่นเอกสาร:
- อัปโหลดเอกสารประกอบการสมัครทั้งหมดผ่านระบบออนไลน์
- ตั้ง Username และ Password
- ยืนยันตัวตนผ่าน Email และ OTP
- ตรวจสอบคุณสมบัติ:
- เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสาร
- หากผ่านการตรวจสอบ จะได้รับหนังสือรับรองคุณสมบัติผ่านระบบ tsmthai หรือ Email
- จองคิวทดสอบ:
- ใช้แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th
- เลือกสำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก (จตุจักร) อาคาร 8 ชั้น 1 หรือสำนักงานขนส่งจังหวัด
- ระบุวันและเวลาในการเข้าทดสอบ
- เข้ารับการทดสอบ:
- ทดสอบผ่านระบบ e-Exam
- สามารถเข้ารับการทดสอบได้ 2 ครั้งภายใน 90 วันนับจากวันทดสอบครั้งแรก
- รับผลการทดสอบและขึ้นทะเบียน:
- เมื่อผ่านการทดสอบ ระบบจะแจ้งผลและขึ้นทะเบียนให้อัตโนมัติ
- สามารถพิมพ์ใบรับรองการขึ้นทะเบียนได้ทันที
บทบาทและหน้าที่ของ TSM
TSM มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง โดยมีหน้าที่หลัก 5 ด้าน 18 ประการ ดังนี้
- การจัดการรถ
- จัดทำแผนบำรุงรักษารถและอุปกรณ์
- การตรวจสอบความพร้อมของรถและอุปกรณ์
- การตรวจสอบอุปกรณ์ความปลอดภัยที่จำเป็น
- การจัดการผู้ขับรถ
- กำหนดหน้าที่พนักงานขับรถ
- จัดทำแผนการทำงานของพนักงานขับรถ
- จัดทำแผนการอบรมพนักงานขับรถ
- จัดให้มีการตรวจสุขภาพ
- ตรวจสอบใบอนุญาตขับรถ
- ตรวจสอบประวัติการกระทำความผิด
- การจัดการเดินรถ
- จัดทำแผนการเดินทาง
- การตรวจสอบและจัดการเส้นทางการเดินรถ
- ตรวจสอบสภาพการจราจรก่อนการเดินทาง
- การจัดการการบรรทุกและโดยสาร
- จัดทำคู่มือการปฏิบัติงาน
- ตรวจสอบความปลอดภัยในการบรรทุกหรือโดยสาร
- ตรวจสอบน้ำหนักบรรทุก
- การบริหารจัดการและวิเคราะห์และประเมินผล
- จัดทำแผนบริหารจัดการอุบัติเหตุ
- บริหารจัดการ และติดตามประสานงานกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
- รายงานอุบัติเหตุ วิเคราะห์ ข้อมูลอุบัติเหตุ และปัจจัยเสี่ยง
การปฏิบัติหน้าที่ของ TSM จะช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการขนส่งทางถนนของประเทศไทยให้สูงขึ้น โดยครอบคลุมทั้งการจัดการยานพาหนะ บุคลากร การเดินรถ การบรรทุก และการบริหารจัดการความเสี่ยงและอุบัติเหตุ
ประโยชน์ของการมี TSM ในองค์กรขนส่ง
- ลดความเสี่ยงและอุบัติเหตุ: TSM ช่วยวางระบบและมาตรการป้องกันอุบัติเหตุอย่างเป็นระบบ
- ประหยัดต้นทุน: การลดอุบัติเหตุและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
- เพิ่มความน่าเชื่อถือ: องค์กรที่มี TSM จะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจมากขึ้น
- ปฏิบัติตามกฎหมาย: TSM ช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยได้อย่างครบถ้วน
- พัฒนาบุคลากร: การฝึกอบรมและการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยช่วยพัฒนาศักยภาพของพนักงานทุกระดับ
การแจ้งประกอบการสำหรับผู้ประกอบการที่มี TSM
เมื่อผู้ประกอบการขนส่งมี TSM ในองค์กรแล้ว จำเป็นต้องแจ้งข้อมูลการประกอบการให้กับกรมการขนส่งทางบกทราบ เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบและแสดงความพร้อมในการดำเนินงานด้านความปลอดภัย ดังนี้:
- ขั้นตอนการแจ้งประกอบการ
- เข้าสู่เว็บไซต์ www.tsmthai.com
- เลือกเมนู “ค้นหา” แล้วคลิก “สืบค้นรายชื่อผู้ประกอบการ”
- เลือก “เพิ่มผู้ประกอบการที่ไม่มีในระบบ”
- กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน พร้อมแนบไฟล์เอกสารที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบความถูกต้องและยืนยันการลงทะเบียน
- เอกสารที่ต้องเตรียม
- สำเนาใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
- หนังสือรับรองบริษัท (อายุไม่เกิน 6 เดือน)
- สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ
- แบบฟอร์มการแต่งตั้ง TSM ประจำบริษัท
- สำเนาใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็น TSM
- การปรับปรุงข้อมูล
- ผู้ประกอบการต้องปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
- หากมีการเปลี่ยนแปลง TSM ต้องแจ้งให้กรมการขนส่งทางบกทราบภายใน 15 วัน
- ประโยชน์ของการแจ้งประกอบการ
- แสดงความพร้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
- เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร
- สามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการต่างๆ จากกรมการขนส่งทางบกได้สะดวกขึ้น
- มีโอกาสได้รับการสนับสนุนหรือสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในอนาคต
- บทลงโทษกรณีไม่แจ้งประกอบการ
- อาจถูกปรับหรือถูกระงับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
- เสียโอกาสในการพัฒนาธุรกิจและการได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
การแจ้งประกอบการเป็นขั้นตอนสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของผู้ประกอบการในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการขนส่ง นอกจากจะเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรและอุตสาหกรรมขนส่งไทยโดยรวม
บทสรุป
การขึ้นทะเบียนเป็น TSM เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการขนส่งทางถนนของประเทศไทย ผู้ที่สนใจสามารถเลือกเส้นทางการขึ้นทะเบียนที่เหมาะสมกับคุณสมบัติของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับวิชาชีพ บุคคลทั่วไป หรือผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์ การมี TSM ในองค์กรไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงและอุบัติเหตุ แต่ยังส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีและความน่าเชื่อถือขององค์กรในระยะยาว
ท้ายที่สุด การพัฒนาระบบ TSM อย่างต่อเนื่องจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในภาคการขนส่งของไทย ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งผู้ประกอบการ พนักงาน และประชาชนทั่วไปที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน การลงทุนในการพัฒนาบุคลากรด้าน TSM จึงเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่ปลอดภัยและยั่งยืนของอุตสาหกรรมขนส่งไทยอย่างแท้จริง
ช่องทางติดต่อ สอบถาม และขอใบเสนอราคา