TSM คืออะไร?
TSM ย่อมาจาก Transport Safety Manager หรือในภาษาไทยคือ ผู้จัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง เป็นบุคลากรที่มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลและควบคุมความปลอดภัยในการดำเนินงานของกิจการขนส่ง โดยเฉพาะองค์กรที่ใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ หรือมีการขนส่งสินค้าจำนวนมากบนถนนหลวง
การมี TSM เป็นหนึ่งในข้อกำหนดของ กรมการขนส่งทางบก ที่บังคับใช้กับผู้ประกอบการขนส่งบางประเภท โดย TSM จะเป็นผู้ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน และผ่านการอบรมเฉพาะทางเกี่ยวกับการบริหารจัดการความปลอดภัยในการขนส่ง เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้ตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
หน้าที่หลักของ TSM ครอบคลุมทั้งในเรื่องการจัดการยานพาหนะ พนักงานขับรถ เส้นทางการเดินรถ การควบคุมการบรรทุก และการบริหารความเสี่ยงในกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉิน
กล่าวโดยสรุป TSM คือกลไกสำคัญในการสร้างระบบความปลอดภัยในการขนส่งขององค์กร และยังเป็นตัวแทนขององค์กรในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้านความปลอดภัยบนท้องถนนอีกด้วย
สารบัญบทความ
- TSM คืออะไร?
- ทำไมธุรกิจขนส่งต้องมี TSM?
- คุณสมบัติของผู้ที่สามารถขึ้นทะเบียนเป็น TSM
- เอกสารที่ใช้ในการขึ้นทะเบียน
- ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนและสอบ TSM
- บทบาทหน้าที่ของ TSM
- การแจ้งประกอบการเมื่อมี TSM
- ประโยชน์ของการมี TSM ในองค์กร
- FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ TSM
- 🚛 เสริมระบบ TSM ให้แข็งแกร่ง ด้วยรถบรรทุกอีซูซุ
ทำไมธุรกิจขนส่งต้องมี TSM?
สำหรับผู้ประกอบการด้านการขนส่งสินค้า การมี TSM (Transport Safety Manager) ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นในหลายกรณี โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องการจดทะเบียนหรือดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมายของกรมการขนส่งทางบก
ไม่เพียงแต่เพื่อตอบสนองข้อกำหนดด้านกฎหมายเท่านั้น แต่ TSM ยังมีบทบาทที่สำคัญในการช่วยให้องค์กรของคุณ “ปลอดภัย” “น่าเชื่อถือ” และ “มีประสิทธิภาพ” มากยิ่งขึ้น
4 เหตุผลสำคัญที่ทุกองค์กรขนส่งควรมี TSM
- 1. ข้อกำหนดทางกฎหมาย: กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้ผู้ประกอบการบางประเภทต้องมี TSM ขึ้นทะเบียน เพื่อให้สามารถประกอบกิจการได้อย่างถูกต้อง
- 2. ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ: TSM มีหน้าที่วางแผนและควบคุมด้านความปลอดภัย ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุที่อาจทำให้สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
- 3. สร้างภาพลักษณ์ที่ดี: ธุรกิจที่มีระบบบริหารจัดการความปลอดภัยจะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น
- 4. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ: TSM ช่วยกำหนดกระบวนการเดินรถและจัดการพนักงานอย่างมีระบบ ทำให้ต้นทุนลดลง และการดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
กล่าวได้ว่า การมี TSM คือการยกระดับองค์กรขนส่งให้ก้าวเข้าสู่มาตรฐานความปลอดภัยในระดับมืออาชีพ
คุณสมบัติของผู้ที่สามารถขึ้นทะเบียนเป็น TSM
กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้บุคคลที่ต้องการขึ้นทะเบียนเป็น TSM ต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้:
1. กลุ่มเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป. วิชาชีพ)
- เป็น จป. วิชาชีพ ตามกฎหมายความปลอดภัยในการทำงาน
- ผ่านการอบรมหลักสูตร TSM ขั้นพื้นฐาน 6 ชั่วโมง
2. กลุ่มบุคคลทั่วไป
- มีสัญชาติไทย
- อายุไม่ต่ำกว่า 22 ปี
- ผ่านการอบรมหลักสูตร TSM สำหรับบุคคลทั่วไป 18 ชั่วโมง
3. กลุ่มผู้มีประสบการณ์ด้านการขนส่ง
- มีสัญชาติไทย
- อายุไม่ต่ำกว่า 22 ปี
- มีประสบการณ์ทำงานด้านการบริหารจัดการขนส่งทางถนน ไม่น้อยกว่า 5 ปี
- ผ่านการอบรมหลักสูตร TSM ขั้นพื้นฐาน 6 ชั่วโมง
ผู้สมัครทุกกลุ่มต้องยื่นหลักฐานการฝึกอบรม และเอกสารประกอบการขึ้นทะเบียนให้ครบถ้วนตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด
เอกสารที่ใช้ในการขึ้นทะเบียน
เมื่อคุณมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกลุ่มที่กำหนด ขั้นตอนต่อไปคือการจัดเตรียมเอกสารให้พร้อมสำหรับการสมัครขึ้นทะเบียนเป็น TSM โดยแต่ละกลุ่มจะใช้เอกสารแตกต่างกันเล็กน้อย ดังนี้:
เอกสารสำหรับ จป. วิชาชีพ
- สำเนาบัตรประชาชน
- รูปถ่ายขนาด 1.5 นิ้ว (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน) จำนวน 1 รูป
- หลักฐานการเป็น จป. วิชาชีพ (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
- ใบปริญญาตรี สาขาอาชีวอนามัยหรือเทียบเท่า
- ใบปริญญาตรี พร้อมหลักฐานการเป็น จป. เทคนิคขั้นสูง และเอกสารอบรมตามกฎหมาย
- ใบรับรองการเป็น จป. วิชาชีพ พร้อมผลอบรมตามกฎหมาย
- ใบรับรองการผ่านอบรมหลักสูตร TSM 6 ชั่วโมง
เอกสารสำหรับบุคคลทั่วไป
- สำเนาบัตรประชาชน
- รูปถ่ายขนาด 1.5 นิ้ว (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน) จำนวน 1 รูป
- ใบรับรองการผ่านอบรมหลักสูตร TSM 18 ชั่วโมง
เอกสารสำหรับผู้มีประสบการณ์ด้านขนส่ง ≥ 5 ปี
- สำเนาบัตรประชาชน
- รูปถ่ายขนาด 1.5 นิ้ว (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน) จำนวน 1 รูป
- หนังสือรับรองประสบการณ์การทำงานในด้านขนส่งทางถนน
- หนังสือรับรองบริษัท หรือใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
- ใบรับรองการผ่านอบรมหลักสูตร TSM 6 ชั่วโมง
แนะนำ: ตรวจสอบความถูกต้องและความครบถ้วนของเอกสารก่อนยื่นสมัคร เพื่อไม่ให้กระบวนการล่าช้า
ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนและสอบ TSM
เมื่อคุณมีคุณสมบัติและเอกสารครบถ้วนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการลงทะเบียนและเข้าสอบเพื่อขึ้นทะเบียนเป็น Transport Safety Manager (TSM) โดยสามารถดำเนินการได้ตามลำดับดังนี้:
ขั้นตอนที่ 1: เข้ารับการฝึกอบรม
- เลือกหลักสูตรที่ตรงกับกลุ่มคุณสมบัติของคุณ (6 หรือ 18 ชั่วโมง)
- ลงทะเบียนกับหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก
- เมื่อจบหลักสูตรจะได้รับใบรับรองการอบรม
ขั้นตอนที่ 2: สมัครขึ้นทะเบียนผ่านระบบออนไลน์
- เข้าสู่เว็บไซต์ www.tsmthai.com
- เลือก “สมัครขึ้นทะเบียน TSM”
- กรอกข้อมูลส่วนตัวและอัปโหลดเอกสารประกอบ
- ตั้งชื่อผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่านสำหรับเข้าสู่ระบบ
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบคุณสมบัติ
- ระบบจะตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติของผู้สมัคร
- หากผ่าน จะได้รับ “หนังสือรับรองคุณสมบัติ” ทางอีเมล หรือดูผ่านระบบได้
ขั้นตอนที่ 4: จองคิวสอบ
- ใช้แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ gecc.dlt.go.th
- เลือกสำนักที่ต้องการสอบ เช่น กรมการขนส่งทางบก จตุจักร หรือสำนักงานขนส่งจังหวัด
- เลือกวันและเวลาที่สะดวก
ขั้นตอนที่ 5: เข้ารับการทดสอบ
- สอบผ่านระบบ e-Exam ด้วยข้อสอบปรนัย
- สามารถสอบได้ 2 ครั้งภายใน 90 วัน
- หากไม่ผ่านใน 2 ครั้ง ต้องกลับไปอบรมใหม่
ขั้นตอนที่ 6: รับผลและใบรับรอง
- เมื่อสอบผ่าน ระบบจะขึ้นทะเบียนให้โดยอัตโนมัติ
- สามารถพิมพ์ “ใบรับรองการเป็น TSM” ได้จากระบบออนไลน์
หมายเหตุ: การยื่นเอกสารและสอบ TSM ไม่มีค่าใช้จ่ายที่กรมการขนส่งทางบก แต่มีค่าอบรมตามหลักสูตรที่แต่ละหน่วยงานกำหนด
บทบาทหน้าที่ของ TSM
Transport Safety Manager (TSM) มีบทบาทสำคัญในการดูแลและกำกับการดำเนินงานด้านความปลอดภัยของกิจการขนส่งทางถนนอย่างรอบด้าน โดยกรมการขนส่งทางบกได้กำหนดกรอบหน้าที่ของ TSM ไว้ทั้งหมด 5 ด้าน 18 ข้อ ดังนี้:
1. การจัดการรถ
- จัดทำแผนการบำรุงรักษารถและอุปกรณ์
- ตรวจสอบความพร้อมของรถก่อนใช้งาน
- ควบคุมและตรวจสอบอุปกรณ์ความปลอดภัยที่จำเป็น
2. การจัดการผู้ขับรถ
- กำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของพนักงานขับรถ
- จัดทำแผนการทำงานและการอบรมประจำปี
- ตรวจสอบสุขภาพและความพร้อมของพนักงานขับรถ
- ตรวจสอบใบอนุญาตขับรถให้ถูกต้องตามประเภท
- ตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดด้านจราจรหรือความปลอดภัย
3. การจัดการเดินรถ
- วางแผนเส้นทางการเดินรถให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
- ติดตามสภาพจราจรก่อนการเดินทาง
- ควบคุมระยะเวลาการขับขี่และเวลาพักของพนักงาน
4. การจัดการการบรรทุกและโดยสาร
- จัดทำคู่มือแนวทางปฏิบัติงานในการบรรทุก/โดยสาร
- ตรวจสอบวิธีการบรรทุกให้ถูกต้อง ปลอดภัย ไม่เกินน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด
5. การบริหารจัดการอุบัติเหตุและภาวะฉุกเฉิน
- จัดทำแผนรับมือและรายงานอุบัติเหตุ
- วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและแนวโน้มอุบัติเหตุ
- ติดตามและประสานงานเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
บทบาททั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อให้การดำเนินงานของผู้ประกอบการขนส่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
การแจ้งประกอบการเมื่อมี TSM
เมื่อองค์กรของคุณมีผู้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น TSM (Transport Safety Manager) แล้ว ขั้นตอนถัดไปที่จำเป็นต้องดำเนินการคือการ แจ้งประกอบการ ให้กรมการขนส่งทางบกรับทราบ เพื่อให้การดำเนินกิจการขนส่งของคุณถูกต้องตามกฎหมาย
ขั้นตอนการแจ้งประกอบการ
- เข้าสู่เว็บไซต์ www.tsmthai.com
- เลือกเมนู “ค้นหา” แล้วคลิก “สืบค้นรายชื่อผู้ประกอบการ”
- เลือก “เพิ่มผู้ประกอบการที่ไม่มีในระบบ”
- กรอกข้อมูลกิจการให้ครบถ้วน
- แนบเอกสารที่เกี่ยวข้อง และยืนยันการลงทะเบียน
เอกสารที่ต้องเตรียม
- สำเนาใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
- หนังสือรับรองบริษัท (อายุไม่เกิน 6 เดือน)
- สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ
- แบบฟอร์มแต่งตั้ง TSM อย่างเป็นทางการ
- สำเนาใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็น TSM
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
- ผู้ประกอบการต้องปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันเสมอ
- หากมีการเปลี่ยนแปลง TSM ต้องแจ้งให้กรมขนส่งฯ ทราบภายใน 15 วัน
ประโยชน์ของการแจ้งประกอบการอย่างถูกต้อง
- แสดงถึงความพร้อมและความรับผิดชอบขององค์กร
- เพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจในสายตาลูกค้าและคู่ค้า
- สามารถเข้าถึงบริการจากกรมการขนส่งได้สะดวก
- มีสิทธิ์รับการสนับสนุนหรือสิทธิประโยชน์ในอนาคต
หมายเหตุ: หากไม่ดำเนินการแจ้งประกอบการ อาจถูกปรับหรือระงับใบอนุญาต ซึ่งส่งผลเสียต่อธุรกิจในระยะยาว
ประโยชน์ของการมี TSM ในองค์กร
การแต่งตั้ง TSM (Transport Safety Manager) ไม่ใช่เพียงเพื่อปฏิบัติตามข้อกฎหมายของกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อองค์กรในหลายมิติ ทั้งในด้านความปลอดภัย การบริหารจัดการ และภาพลักษณ์ทางธุรกิจ
5 เหตุผลที่องค์กรควรมี TSM อย่างจริงจัง
- 1. ลดความเสี่ยงและอุบัติเหตุ: ด้วยการวางระบบตรวจสอบ และวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงล่วงหน้า ช่วยลดโอกาสเกิดเหตุไม่คาดฝัน
- 2. ประหยัดต้นทุนระยะยาว: ลดค่าใช้จ่ายจากความเสียหาย ค่าซ่อมรถ หรือการสูญเสียจากอุบัติเหตุ
- 3. เพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตาลูกค้า: การมี TSM สื่อถึงความรับผิดชอบและความเป็นมืออาชีพ
- 4. สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร: พนักงานทุกคนจะมีความตระหนักและทำงานตามระบบที่ปลอดภัยมากขึ้น
- 5. รองรับการเติบโตของธุรกิจ: เมื่อมีโครงสร้างความปลอดภัยที่แข็งแรง องค์กรสามารถขยายกิจการได้อย่างมั่นคง
สรุป: การลงทุนใน TSM คือการลงทุนใน “ความปลอดภัย” “ประสิทธิภาพ” และ “ความยั่งยืน” ของธุรกิจขนส่งในระยะยาว
FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ TSM
1. สอบ TSM ผ่านแล้วทำอย่างไรต่อ?
หากสอบผ่าน ระบบจะขึ้นทะเบียนให้อัตโนมัติภายในเว็บไซต์ tsmthai.com และสามารถพิมพ์ใบรับรองได้ทันทีผ่านระบบ
2. ถ้าไม่ผ่านการสอบ TSM ต้องทำอย่างไร?
สามารถสอบซ้ำได้อีก 1 ครั้ง ภายใน 90 วันนับจากวันที่สอบครั้งแรก หากสอบไม่ผ่านทั้ง 2 ครั้ง ต้องกลับไปอบรมใหม่ก่อนยื่นสอบใหม่
3. ต้องใช้เอกสารอะไรในการสมัครสอบ TSM?
ต้องเตรียมเอกสารพื้นฐาน เช่น บัตรประชาชน, รูปถ่าย, ใบรับรองการอบรม และเอกสารแสดงคุณสมบัติตามกลุ่มที่สมัคร
4. เปลี่ยน TSM ในบริษัท ต้องแจ้งหรือไม่?
ต้องแจ้งกรมการขนส่งทางบกภายใน 15 วัน ผ่านระบบ tsmthai.com เพื่ออัปเดตข้อมูลผู้รับผิดชอบในระบบ
5. ใบรับรองการเป็น TSM มีวันหมดอายุหรือไม่?
โดยทั่วไปไม่มีวันหมดอายุ แต่ต้องคอยอัปเดตข้อมูลและรับการฝึกอบรมเพิ่มเติมตามประกาศที่กรมการขนส่งอาจกำหนดในอนาคต
6. บริษัทขนส่งทั่วไปต้องมี TSM หรือไม่?
หากเข้าเกณฑ์ที่กำหนด เช่น ขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่ หรือมีจำนวนรถเกินที่กำหนด จำเป็นต้องมี TSM อย่างน้อย 1 คนในองค์กร
🚛 เสริมระบบ TSM ให้แข็งแกร่ง ด้วยรถบรรทุกอีซูซุ
เมื่อองค์กรของคุณมีระบบความปลอดภัยที่ดีจาก TSM แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ รถบรรทุกที่ไว้ใจได้ ที่สามารถตอบโจทย์ด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความคุ้มค่าระยะยาวได้จริง
รถบรรทุกอีซูซุ EURO 5 MAX คือทางเลือกที่ใช่สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการความประหยัด พร้อมมาตรฐานสูงสุด รองรับแนวทางของ TSM อย่างเต็มรูปแบบ:
- ประหยัดน้ำมันสูง ไม่ต้องเติมน้ำยาบำบัดไอเสีย (AdBlue)
- ดูแลรักษาง่าย มีระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะ
- อะไหล่แท้ และบริการหลังการขายครอบคลุมทั่วประเทศ
- รองรับการตรวจสอบเพื่อจัดทำแผนงานด้านความปลอดภัยได้เต็มระบบ
หากคุณต้องการคำแนะนำเรื่องรถบรรทุกอีซูซุที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
ติดต่อ ธพัศ แสงนุภา (เซลล์ตูน) ได้โดยตรงครับ
📞 โทร: 082-491-1193
💬 Line ID: toon.97
📘 Facebook: เซลล์ตูนรับจบทุกเรื่องรถบรรทุก
#ISUZU #ISUZUKINGOFTRUCKS #IsuzuEuro5Max #GXZ #FTR #รถบรรทุกอีซูซุ #แรงจัดประหยัดจริง #อีซูซุยูโร5 #ไม่ต้องเติมAdBlue #ลงทุนให้คุ้มค่า #กำไรต้องมา #เซลล์ตูนรับจบทุกเรื่องรถบรรทุก
ช่องทางติดต่อ สอบถาม และขอใบเสนอราคา