TSM คืออะไร? สอบ ใบอนุญาต และขึ้นทะเบียนผู้จัดการด้านความปลอดภัยขนส่ง ปี 2025

TSM คืออะไร?

TSM ย่อมาจาก Transport Safety Manager หรือในภาษาไทยคือ ผู้จัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง เป็นบุคลากรที่มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลและควบคุมความปลอดภัยในการดำเนินงานของกิจการขนส่ง โดยเฉพาะองค์กรที่ใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ หรือมีการขนส่งสินค้าจำนวนมากบนถนนหลวง

การมี TSM เป็นหนึ่งในข้อกำหนดของ กรมการขนส่งทางบก ที่บังคับใช้กับผู้ประกอบการขนส่งบางประเภท โดย TSM จะเป็นผู้ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน และผ่านการอบรมเฉพาะทางเกี่ยวกับการบริหารจัดการความปลอดภัยในการขนส่ง เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้ตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด

หน้าที่หลักของ TSM ครอบคลุมทั้งในเรื่องการจัดการยานพาหนะ พนักงานขับรถ เส้นทางการเดินรถ การควบคุมการบรรทุก และการบริหารความเสี่ยงในกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉิน

กล่าวโดยสรุป TSM คือกลไกสำคัญในการสร้างระบบความปลอดภัยในการขนส่งขององค์กร และยังเป็นตัวแทนขององค์กรในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้านความปลอดภัยบนท้องถนนอีกด้วย

ทำไมธุรกิจขนส่งต้องมี TSM?

สำหรับผู้ประกอบการด้านการขนส่งสินค้า การมี TSM (Transport Safety Manager) ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นในหลายกรณี โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องการจดทะเบียนหรือดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมายของกรมการขนส่งทางบก

ไม่เพียงแต่เพื่อตอบสนองข้อกำหนดด้านกฎหมายเท่านั้น แต่ TSM ยังมีบทบาทที่สำคัญในการช่วยให้องค์กรของคุณ “ปลอดภัย” “น่าเชื่อถือ” และ “มีประสิทธิภาพ” มากยิ่งขึ้น

4 เหตุผลสำคัญที่ทุกองค์กรขนส่งควรมี TSM

  • 1. ข้อกำหนดทางกฎหมาย: กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้ผู้ประกอบการบางประเภทต้องมี TSM ขึ้นทะเบียน เพื่อให้สามารถประกอบกิจการได้อย่างถูกต้อง
  • 2. ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ: TSM มีหน้าที่วางแผนและควบคุมด้านความปลอดภัย ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุที่อาจทำให้สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
  • 3. สร้างภาพลักษณ์ที่ดี: ธุรกิจที่มีระบบบริหารจัดการความปลอดภัยจะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น
  • 4. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ: TSM ช่วยกำหนดกระบวนการเดินรถและจัดการพนักงานอย่างมีระบบ ทำให้ต้นทุนลดลง และการดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

กล่าวได้ว่า การมี TSM คือการยกระดับองค์กรขนส่งให้ก้าวเข้าสู่มาตรฐานความปลอดภัยในระดับมืออาชีพ

คุณสมบัติของผู้ที่สามารถขึ้นทะเบียนเป็น TSM

กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้บุคคลที่ต้องการขึ้นทะเบียนเป็น TSM ต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้:

1. กลุ่มเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป. วิชาชีพ)

  • เป็น จป. วิชาชีพ ตามกฎหมายความปลอดภัยในการทำงาน
  • ผ่านการอบรมหลักสูตร TSM ขั้นพื้นฐาน 6 ชั่วโมง

2. กลุ่มบุคคลทั่วไป

  • มีสัญชาติไทย
  • อายุไม่ต่ำกว่า 22 ปี
  • ผ่านการอบรมหลักสูตร TSM สำหรับบุคคลทั่วไป 18 ชั่วโมง

3. กลุ่มผู้มีประสบการณ์ด้านการขนส่ง

  • มีสัญชาติไทย
  • อายุไม่ต่ำกว่า 22 ปี
  • มีประสบการณ์ทำงานด้านการบริหารจัดการขนส่งทางถนน ไม่น้อยกว่า 5 ปี
  • ผ่านการอบรมหลักสูตร TSM ขั้นพื้นฐาน 6 ชั่วโมง

ผู้สมัครทุกกลุ่มต้องยื่นหลักฐานการฝึกอบรม และเอกสารประกอบการขึ้นทะเบียนให้ครบถ้วนตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด

เอกสารที่ใช้ในการขึ้นทะเบียน

เมื่อคุณมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกลุ่มที่กำหนด ขั้นตอนต่อไปคือการจัดเตรียมเอกสารให้พร้อมสำหรับการสมัครขึ้นทะเบียนเป็น TSM โดยแต่ละกลุ่มจะใช้เอกสารแตกต่างกันเล็กน้อย ดังนี้:

เอกสารสำหรับ จป. วิชาชีพ

  • สำเนาบัตรประชาชน
  • รูปถ่ายขนาด 1.5 นิ้ว (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน) จำนวน 1 รูป
  • หลักฐานการเป็น จป. วิชาชีพ (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
    • ใบปริญญาตรี สาขาอาชีวอนามัยหรือเทียบเท่า
    • ใบปริญญาตรี พร้อมหลักฐานการเป็น จป. เทคนิคขั้นสูง และเอกสารอบรมตามกฎหมาย
    • ใบรับรองการเป็น จป. วิชาชีพ พร้อมผลอบรมตามกฎหมาย
  • ใบรับรองการผ่านอบรมหลักสูตร TSM 6 ชั่วโมง

เอกสารสำหรับบุคคลทั่วไป

  • สำเนาบัตรประชาชน
  • รูปถ่ายขนาด 1.5 นิ้ว (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน) จำนวน 1 รูป
  • ใบรับรองการผ่านอบรมหลักสูตร TSM 18 ชั่วโมง

เอกสารสำหรับผู้มีประสบการณ์ด้านขนส่ง ≥ 5 ปี

  • สำเนาบัตรประชาชน
  • รูปถ่ายขนาด 1.5 นิ้ว (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน) จำนวน 1 รูป
  • หนังสือรับรองประสบการณ์การทำงานในด้านขนส่งทางถนน
  • หนังสือรับรองบริษัท หรือใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
  • ใบรับรองการผ่านอบรมหลักสูตร TSM 6 ชั่วโมง

แนะนำ: ตรวจสอบความถูกต้องและความครบถ้วนของเอกสารก่อนยื่นสมัคร เพื่อไม่ให้กระบวนการล่าช้า

ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนและสอบ TSM

เมื่อคุณมีคุณสมบัติและเอกสารครบถ้วนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการลงทะเบียนและเข้าสอบเพื่อขึ้นทะเบียนเป็น Transport Safety Manager (TSM) โดยสามารถดำเนินการได้ตามลำดับดังนี้:

ขั้นตอนที่ 1: เข้ารับการฝึกอบรม

  • เลือกหลักสูตรที่ตรงกับกลุ่มคุณสมบัติของคุณ (6 หรือ 18 ชั่วโมง)
  • ลงทะเบียนกับหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก
  • เมื่อจบหลักสูตรจะได้รับใบรับรองการอบรม

ขั้นตอนที่ 2: สมัครขึ้นทะเบียนผ่านระบบออนไลน์

  • เข้าสู่เว็บไซต์ www.tsmthai.com
  • เลือก “สมัครขึ้นทะเบียน TSM”
  • กรอกข้อมูลส่วนตัวและอัปโหลดเอกสารประกอบ
  • ตั้งชื่อผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่านสำหรับเข้าสู่ระบบ

ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบคุณสมบัติ

  • ระบบจะตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติของผู้สมัคร
  • หากผ่าน จะได้รับ “หนังสือรับรองคุณสมบัติ” ทางอีเมล หรือดูผ่านระบบได้

ขั้นตอนที่ 4: จองคิวสอบ

  • ใช้แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ gecc.dlt.go.th
  • เลือกสำนักที่ต้องการสอบ เช่น กรมการขนส่งทางบก จตุจักร หรือสำนักงานขนส่งจังหวัด
  • เลือกวันและเวลาที่สะดวก

ขั้นตอนที่ 5: เข้ารับการทดสอบ

  • สอบผ่านระบบ e-Exam ด้วยข้อสอบปรนัย
  • สามารถสอบได้ 2 ครั้งภายใน 90 วัน
  • หากไม่ผ่านใน 2 ครั้ง ต้องกลับไปอบรมใหม่

ขั้นตอนที่ 6: รับผลและใบรับรอง

  • เมื่อสอบผ่าน ระบบจะขึ้นทะเบียนให้โดยอัตโนมัติ
  • สามารถพิมพ์ “ใบรับรองการเป็น TSM” ได้จากระบบออนไลน์

หมายเหตุ: การยื่นเอกสารและสอบ TSM ไม่มีค่าใช้จ่ายที่กรมการขนส่งทางบก แต่มีค่าอบรมตามหลักสูตรที่แต่ละหน่วยงานกำหนด

บทบาทหน้าที่ของ TSM

Transport Safety Manager (TSM) มีบทบาทสำคัญในการดูแลและกำกับการดำเนินงานด้านความปลอดภัยของกิจการขนส่งทางถนนอย่างรอบด้าน โดยกรมการขนส่งทางบกได้กำหนดกรอบหน้าที่ของ TSM ไว้ทั้งหมด 5 ด้าน 18 ข้อ ดังนี้:

1. การจัดการรถ

  • จัดทำแผนการบำรุงรักษารถและอุปกรณ์
  • ตรวจสอบความพร้อมของรถก่อนใช้งาน
  • ควบคุมและตรวจสอบอุปกรณ์ความปลอดภัยที่จำเป็น

2. การจัดการผู้ขับรถ

  • กำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของพนักงานขับรถ
  • จัดทำแผนการทำงานและการอบรมประจำปี
  • ตรวจสอบสุขภาพและความพร้อมของพนักงานขับรถ
  • ตรวจสอบใบอนุญาตขับรถให้ถูกต้องตามประเภท
  • ตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดด้านจราจรหรือความปลอดภัย

3. การจัดการเดินรถ

  • วางแผนเส้นทางการเดินรถให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
  • ติดตามสภาพจราจรก่อนการเดินทาง
  • ควบคุมระยะเวลาการขับขี่และเวลาพักของพนักงาน

4. การจัดการการบรรทุกและโดยสาร

  • จัดทำคู่มือแนวทางปฏิบัติงานในการบรรทุก/โดยสาร
  • ตรวจสอบวิธีการบรรทุกให้ถูกต้อง ปลอดภัย ไม่เกินน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด

5. การบริหารจัดการอุบัติเหตุและภาวะฉุกเฉิน

  • จัดทำแผนรับมือและรายงานอุบัติเหตุ
  • วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและแนวโน้มอุบัติเหตุ
  • ติดตามและประสานงานเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

บทบาททั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อให้การดำเนินงานของผู้ประกอบการขนส่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

การแจ้งประกอบการเมื่อมี TSM

เมื่อองค์กรของคุณมีผู้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น TSM (Transport Safety Manager) แล้ว ขั้นตอนถัดไปที่จำเป็นต้องดำเนินการคือการ แจ้งประกอบการ ให้กรมการขนส่งทางบกรับทราบ เพื่อให้การดำเนินกิจการขนส่งของคุณถูกต้องตามกฎหมาย

ขั้นตอนการแจ้งประกอบการ

  1. เข้าสู่เว็บไซต์ www.tsmthai.com
  2. เลือกเมนู “ค้นหา” แล้วคลิก “สืบค้นรายชื่อผู้ประกอบการ”
  3. เลือก “เพิ่มผู้ประกอบการที่ไม่มีในระบบ”
  4. กรอกข้อมูลกิจการให้ครบถ้วน
  5. แนบเอกสารที่เกี่ยวข้อง และยืนยันการลงทะเบียน

เอกสารที่ต้องเตรียม

  • สำเนาใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
  • หนังสือรับรองบริษัท (อายุไม่เกิน 6 เดือน)
  • สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ
  • แบบฟอร์มแต่งตั้ง TSM อย่างเป็นทางการ
  • สำเนาใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็น TSM

ข้อควรรู้เพิ่มเติม

  • ผู้ประกอบการต้องปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันเสมอ
  • หากมีการเปลี่ยนแปลง TSM ต้องแจ้งให้กรมขนส่งฯ ทราบภายใน 15 วัน

ประโยชน์ของการแจ้งประกอบการอย่างถูกต้อง

  • แสดงถึงความพร้อมและความรับผิดชอบขององค์กร
  • เพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจในสายตาลูกค้าและคู่ค้า
  • สามารถเข้าถึงบริการจากกรมการขนส่งได้สะดวก
  • มีสิทธิ์รับการสนับสนุนหรือสิทธิประโยชน์ในอนาคต

หมายเหตุ: หากไม่ดำเนินการแจ้งประกอบการ อาจถูกปรับหรือระงับใบอนุญาต ซึ่งส่งผลเสียต่อธุรกิจในระยะยาว

ประโยชน์ของการมี TSM ในองค์กร

การแต่งตั้ง TSM (Transport Safety Manager) ไม่ใช่เพียงเพื่อปฏิบัติตามข้อกฎหมายของกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อองค์กรในหลายมิติ ทั้งในด้านความปลอดภัย การบริหารจัดการ และภาพลักษณ์ทางธุรกิจ

5 เหตุผลที่องค์กรควรมี TSM อย่างจริงจัง

  • 1. ลดความเสี่ยงและอุบัติเหตุ: ด้วยการวางระบบตรวจสอบ และวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงล่วงหน้า ช่วยลดโอกาสเกิดเหตุไม่คาดฝัน
  • 2. ประหยัดต้นทุนระยะยาว: ลดค่าใช้จ่ายจากความเสียหาย ค่าซ่อมรถ หรือการสูญเสียจากอุบัติเหตุ
  • 3. เพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตาลูกค้า: การมี TSM สื่อถึงความรับผิดชอบและความเป็นมืออาชีพ
  • 4. สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร: พนักงานทุกคนจะมีความตระหนักและทำงานตามระบบที่ปลอดภัยมากขึ้น
  • 5. รองรับการเติบโตของธุรกิจ: เมื่อมีโครงสร้างความปลอดภัยที่แข็งแรง องค์กรสามารถขยายกิจการได้อย่างมั่นคง

สรุป: การลงทุนใน TSM คือการลงทุนใน “ความปลอดภัย” “ประสิทธิภาพ” และ “ความยั่งยืน” ของธุรกิจขนส่งในระยะยาว

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ TSM

1. สอบ TSM ผ่านแล้วทำอย่างไรต่อ?

หากสอบผ่าน ระบบจะขึ้นทะเบียนให้อัตโนมัติภายในเว็บไซต์ tsmthai.com และสามารถพิมพ์ใบรับรองได้ทันทีผ่านระบบ

2. ถ้าไม่ผ่านการสอบ TSM ต้องทำอย่างไร?

สามารถสอบซ้ำได้อีก 1 ครั้ง ภายใน 90 วันนับจากวันที่สอบครั้งแรก หากสอบไม่ผ่านทั้ง 2 ครั้ง ต้องกลับไปอบรมใหม่ก่อนยื่นสอบใหม่

3. ต้องใช้เอกสารอะไรในการสมัครสอบ TSM?

ต้องเตรียมเอกสารพื้นฐาน เช่น บัตรประชาชน, รูปถ่าย, ใบรับรองการอบรม และเอกสารแสดงคุณสมบัติตามกลุ่มที่สมัคร

4. เปลี่ยน TSM ในบริษัท ต้องแจ้งหรือไม่?

ต้องแจ้งกรมการขนส่งทางบกภายใน 15 วัน ผ่านระบบ tsmthai.com เพื่ออัปเดตข้อมูลผู้รับผิดชอบในระบบ

5. ใบรับรองการเป็น TSM มีวันหมดอายุหรือไม่?

โดยทั่วไปไม่มีวันหมดอายุ แต่ต้องคอยอัปเดตข้อมูลและรับการฝึกอบรมเพิ่มเติมตามประกาศที่กรมการขนส่งอาจกำหนดในอนาคต

6. บริษัทขนส่งทั่วไปต้องมี TSM หรือไม่?

หากเข้าเกณฑ์ที่กำหนด เช่น ขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่ หรือมีจำนวนรถเกินที่กำหนด จำเป็นต้องมี TSM อย่างน้อย 1 คนในองค์กร

🚛 เสริมระบบ TSM ให้แข็งแกร่ง ด้วยรถบรรทุกอีซูซุ

เมื่อองค์กรของคุณมีระบบความปลอดภัยที่ดีจาก TSM แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ รถบรรทุกที่ไว้ใจได้ ที่สามารถตอบโจทย์ด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความคุ้มค่าระยะยาวได้จริง

รถบรรทุกอีซูซุ EURO 5 MAX คือทางเลือกที่ใช่สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการความประหยัด พร้อมมาตรฐานสูงสุด รองรับแนวทางของ TSM อย่างเต็มรูปแบบ:

  • ประหยัดน้ำมันสูง ไม่ต้องเติมน้ำยาบำบัดไอเสีย (AdBlue)
  • ดูแลรักษาง่าย มีระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะ
  • อะไหล่แท้ และบริการหลังการขายครอบคลุมทั่วประเทศ
  • รองรับการตรวจสอบเพื่อจัดทำแผนงานด้านความปลอดภัยได้เต็มระบบ

หากคุณต้องการคำแนะนำเรื่องรถบรรทุกอีซูซุที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
ติดต่อ ธพัศ แสงนุภา (เซลล์ตูน) ได้โดยตรงครับ

📞 โทร: 082-491-1193
💬 Line ID: toon.97
📘 Facebook: เซลล์ตูนรับจบทุกเรื่องรถบรรทุก

#ISUZU #ISUZUKINGOFTRUCKS #IsuzuEuro5Max #GXZ #FTR #รถบรรทุกอีซูซุ #แรงจัดประหยัดจริง #อีซูซุยูโร5 #ไม่ต้องเติมAdBlue #ลงทุนให้คุ้มค่า #กำไรต้องมา #เซลล์ตูนรับจบทุกเรื่องรถบรรทุก

ช่องทางติดต่อ สอบถาม และขอใบเสนอราคา

เซลล์ตูน ขายรถอีซูซุป้ายแดง
เซลล์ตูน ขายรถอีซูซุพร้อมตารางผ่อน